หลังจากที่ หลุมถูกขุดรอเสาไว้เรียบร้อยแล้ว ช่วงที่ระหว่างรอเสาซีเมนต์หน้ากว้าง 5” จำนวน 35 ต้น (สั่งแล้วถึงผลิตใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์) ก็คงต้องเตรียมวัสดุอื่นๆ เพื่อมาทำโรงเรือนรอไปก่อน ตอนแรกกะว่าหลังคาจะใช้โครงเหล็กทั้งหมด เพราะมันง่ายในการทำ และการเตรียมวัสดุ แต่พอลองประเมินเงินในกระเป๋าคร่าวๆแล้ว จำเป็นต้องตัดวัสดุที่เป็นเหล็กออกไปเลยเป็นอย่างแรก ฮ่าๆ… เพราะสนนราคาเริ่มต้น ว่ากันเป็นแสนอัพ #ผมมิสามารถเห่อๆ
ฉนั้นวัสุดท้องถิ่นในแถบนี้ จึงเป็นทางรอด #มิใช่ทางเลือก ตอนนี้วัสดุที่หาได้และนำมาใช้ได้เลยคงหนีไม่พ้น ก็คือไม้ไผ่ ในไร่มีไม้ไผ่ที่พ่อปลูกไว้เพื่อใช้สอยอยู่แล้วหลายกอพอสมควร มีทั้งไผ่บง ไผ่ลวก สามารถเลือกเอามาใช้ได้ตามใจชอบเลย งานนี้เลยประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้อีกมากโข แต่ มีข้อดีก็มีข้อเสีย เพราะข้อจำกัดอย่างหนึ่งของไม้ไผ่ก็คือ ไม้ไผ่หากไม่ได้ทำการป้องกันมอด ด้วยการลนไฟ หรือชุบน้ำยาก่อนนำมาใช้งาน อายุการใช้งานของไม้ไผ่จะอยู่ที่ 2-3 ปี มอดก็จะมาเยือน แต่เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่พอยอมรับได้ เพราะอนาคตหากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คงได้มีโอกาสได้ใช้โครงเหล็กกับเค้าบ้าง
หลังจากได้ไม้ไผ่บงมาทำเป็นคานโรงเรือนแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ของโครงหลังคาก็คือไม้แป งานนี้ไม้ไผ่รวก จึงเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่จะนำมาใช้ทำไม้แป เพราะด้วยลำของไผ่รวก ที่ไม่ใหญ่และหนักจนเกินไป พร้อมทั้งยังมีลำที่เหยียดตรง จึงทำให้ง่ายสะดวกต่อการใช้งาน ไผ่รวกจึงเป็นพระเอกของงานนี้
ไม้ไผ่ต่างๆ ถูกตัดกองๆไว้เพื่อเตรียมใช้งาน โชคดีที่กอไผ่รวกอยู่ไก้ลโรงเรือนหน่อยเดียว เลยไม่ต้องได้ขนย้ายเยอะ แต่กอไผ่บง อยู่ไกลโรงเรือนพอสมควร จำเป็นที่ต้องเอารถมาขนไปยังสถานที่สร้างโรงเรือน นึกตอนแรกๆ คิดว่าจะไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ เรื่องการขนย้าย แต่เอาเข้าจริงด้วยความที่ไผ่บงทั้งยาวและหนัก จึงจำเป็นต้องทำคานไม้ค้ำ เพื่อขนไผ่บงโดยเฉพาะ พ่อตัดไม้ง่ามจากต้นลำใย อันบิ๊กเบิ้มมากมาสองอัน แล้วหาคานไม้มามัดติดเข้าด้วยกัน แล้วจึงมัดติดคานไม้กับโครงรถอีกที กว่าจะขนมาได้ทั้งหมดกอง เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า #ประสบการณ์นั้นสำคัญมากๆ พ่อมองแป๊บเดียวรู้เลยว่า ต้องทำอย่างไรกับอุปสรรคปัญหาที่เราเจอข้างหน้า จึงทำให้เรื่องที่ยากๆผ่านไปได้ด้วยดี แต่ถ้าไม่มีประสบการณ์นี้ เชื่อได้ว่า ผมคงได้ลองเอาไผ่บงมาใส่รถ จากนั้นขนก็ขนไม่ได้ สักพักจึงนั่งคิดลองหาวิธีการต่างๆมาแก้ปัญหา จนแล้วจนรอด ไม่แน่ใจว่าทั้งวันจะได้ขนไม้ไผ่รึเปล่า ฮ่าๆ…. แต่งานนี้ด้วยที่พ่อมีประสบการณ์ตรง งานนี้เลยแก้ปัญหาได้ตรงจุด ทำให้งานที่จะเสร็จก็เสร็จทันเวลา ไม่ชักช้าเสียเวลา #ขอบคุณประสบการณ์ของพ่อครับ
งานนี้หากนับตั้งแต่วันตัดไม้ไผ่ การขน ก็ร่วมๆ 3 วัน มองดูแล้วเหมือนจะเป็นงานง่ายๆ แต่เอาเข้าจริง มันไม่ง่ายเลยครับ